ระมัดระวังหากเทรดตอน การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในปี 2024

แล้วเราก็มาถึงวันสุดท้ายก่อน การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ หลังจากที่ติดตามมาอย่างนาน วันนี้ผมจะสรุป สิ่งที่เราต้องระมัดระวัง หากต้องการเทรด Forex ทองคำ หุ้น หรือสินทรัพย์ อื่นๆ

ผมขอเริ่มจากสถานการณ์การเลือกตั้งในสหรัฐฯ สั้นๆ

โดยจากการสำรวจความคิดเห็นในสหรัฐฯ พบว่า รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ตอนนี้มีคะแนนนำเล็กน้อยใน 7 รัฐที่มีความสำคัญ (รัฐสวิงสเตต) อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ล่าสุดจาก Polymarket ชี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อาจมีโอกาสชนะมากกว่า

คะแนนการเลือกตั้งในสหรัฐฯ

ดังนั้น เราไม่ควรพยายามทายผลลัพธ์สุดท้าย แต่ควรให้ความสำคัญกับผลกระทบที่จะตามมาในตลาด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการลงทุน


สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมีดังนี้

1. สภาพคล่อง

ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ตลาดจะปรับความคาดหวังอย่างต่อเนื่อง ตามผลการเลือกตั้งในรัฐสวิง เพราะมีความเชื่อว่า "หากชนะในรัฐสวิงสเตต ก็เท่ากับการชนะการเลือกตั้ง"


จากการสังเกต ผลการเลือกตั้งในรัฐสวิงอยู่ที่ 48% กับ 47% ซึ่งยังไม่แน่นอน และในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แต่ละรัฐใช้ระบบ “ผู้ชนะได้ทั้งหมด” ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจพลิกสถานการณ์ได้ด้วยคะแนนนำเพียงเล็กน้อย ดังนั้นการเคลื่อนไหวของตลาดจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้


โดยเฉพาะต้องให้ความสำคัญกับรัฐอาริโซนา มิชิแกน จอร์เจีย และเพนซิลเวเนีย ซึ่งไม่มีฝ่ายใดมีความได้เปรียบชัดเจน


การเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็วและไม่แน่นอนจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการขาดแคลนสภาพคล่อง โดยเฉพาะเมื่ออารมณ์ของตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีสภาพคล่องดีเท่าที่จะทำได้


ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม EBC ที่เชื่อมต่อกับสภาพคล่องจากกว่า 36 แห่ง เช่น JPMorgan, UBS, Barclays, Citibank และ Deutsche Bank ซึ่งช่วยให้เราสามารถเสนอราคาที่ดีได้ แม้ในช่วงที่สภาพคล่องของตลาดตึงตัว

สภาพคล่องของโบรกเกอร์ EBC

2. เน้นสินทรัพย์สำคัญสองประเภทนี้

หลายโบรกเกอร์ได้ทำการคาดการณ์เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาด ซึ่งรวมถึงการควบคุมสภาของทั้งสองพรรคด้วย


สินทรัพย์หลักที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ทองคำ และเงินดอลลาร์


จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทองคำมีแนวโน้มที่จะตอบสนองอย่างชัดเจนที่สุด เนื่องจากพรรค รีพับลิกัน มักสนับสนุนการลดภาษีและการลดขนาดรัฐบาล ในขณะที่พรรค เดโมแครต มีนโยบายที่ตรงกันข้าม นโยบายเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อตลาดสินทรัพย์ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความตึงเครียดทางการเมืองมักจะสนับสนุนราคาทองคำ


ผลกระทบจากการเลือกตั้งต่อตลาดหุ้นถือเป็นลักษณะทั่วไป (systematic) ไม่ใช่แค่หุ้นใดหุ้นหนึ่ง ดังนั้นการเทรดดัชนีจึงช่วยให้ติดตามอารมณ์ของตลาดได้ดีกว่า


เมื่อเร็ว ๆ นี้ โบรกเกอร์ EBC ได้ทำการเพิ่มสภาพคล่องในดัชนีหุ้นที่เป็นที่นิยม โดยดัชนีหุ้นสหรัฐฯ สามตัวหลักมีส่วนต่างราคาลดลงถึงระดับต่ำสุดในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะดัชนี NASDAQ ที่ลดลงถึง 85% ซึ่งทำให้การซื้อขายในช่วงเลือกตั้งมีสภาพแวดล้อมที่ดี



ทองคำก็มีเหตุผลที่คล้ายกัน การเลือกโบรกเกอร์ที่มีต้นทุนการซื้อขายต่ำจึงเป็นสิ่งสำคัญ


โบรค EBC มีค่าสเปรดทองคำเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.6-1.9 ในขณะที่ระดับเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 2.8-3.2; ส่วนค่าสวอป ปัจจุบันเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ 17-25 ดอลลาร์ต่อสัญญา ขณะที่ EBC มีเพียง 10-12 ดอลลาร์ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะยาวหรือระยะสั้น สามารถเสนอราคาที่ดีกว่าได้


3. ตั้ง Stop-Loss

ในช่วงการเลือกตั้ง การตั้งจุด ST มีความสำคัญอย่างยิ่ง นี่คือกฎพื้นฐานในการเทรด


ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร อย่าให้ความมั่นใจในทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดมากเกินไป


ตัวอย่างเช่น ถ้าพรรคที่ควบคุมทั้งสองสภาและประธานาธิบดีไม่ใช่พรรคเดียวกัน อาจเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบาย ซึ่งจะส่งผลให้สินทรัพย์มีความผันผวนสูง


นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของรัฐที่มีการเปลี่ยนแปลงการสนับสนุน ในบางครั้ง เช่นในปี 1992 มี 22 รัฐที่เปลี่ยนไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดมากขึ้น

22 รัฐที่สนับสนุนพรรคการเมืองตรงข้าม ในปี1992

ในช่วงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ข้อมูลสำคัญต่างๆ อาจถูกเปิดเผยพร้อมกัน และคุณภาพของข้อมูลเหล่านั้น สามารถส่งผลต่ออารมณ์ของตลาดและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจะสะท้อนในการลงคะแนนและการวางเดิมพันในตลาด ดังนั้น ควรให้ความสนใจในเรื่องนี้ด้วย


การตั้งจุดหยุดขาดทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมีการถือระยะยาว


อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังว่าการหยุดขาดทุนจะทำงานได้เฉพาะเมื่อราคาตลาดแตะที่ระดับที่ตั้งไว้ แต่ในความเป็นจริง บางโบรกเกอร์อาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ทำให้คำสั่ง SPไม่สามารถถูกเรียกใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้พอร์ตแตก ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีสภาพคล่องดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ


เรายังสามารถใช้เครื่องมือช่วยในการดำเนินการได้ เช่น EBC มีการให้บริการระบบเทรด EA สำหรับการปิดสถานะด้วยการคลิกเดียว การตั้งเวลาสั่งซื้อ และการติดตามมูลค่าสุทธิ เป็นต้น เมื่อถึงเงื่อนไขหยุดขาดทุนที่ตั้งไว้ จะสามารถทำการปิดสถานะได้ทันที ซึ่งจะเพิ่มความยืดหยุ่นในการเทรดและช่วยให้มีความมั่นใจมากขึ้น


โดยรวมแล้ว เมื่อการเลือกตั้งในสหรัฐฯ เริ่มขึ้น เราจะพบกับความผันผวนของตลาดที่สูงมาก นอกจากการติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งแล้ว เรายังต้องระมัดระวังในเรื่องของตำแหน่งการลงทุน สภาพคล่อง และการเลือกสินทรัพย์ และต้องตั้งจุดทำกำไรและหยุดขาดทุนให้ดี เพื่อที่จะคว้าโอกาสในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถือครองทองคำของแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันอย่างไร?

ช่วงนี้ตลาดผันผวน เทรดยากขึ้น ทำอย่างไรให้ดี?

เครื่องมือ Pending Order ใน Order Flow