ข้อแนะนำ สำหรับมือใหม่ที่อยากเล่นหุ้น
ช่วงนี้มีเพื่อนหลายคนถามเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้น
คำแนะนำของผมคือ ถ้าคุณไม่เคยลงทุนในตลาดหุ้นมาก่อน ควรเริ่มต้นจากการลงทุนในดัชนีหุ้นจะดีกว่า
เพราะอะไร?.....เพราะดัชนีหุ้น หรือว่า Stock Index เป็นการรวมหุ้นของบริษัทชั้นนำ หรือหุ้นที่ใหญ่หลักๆ หลายตัวไว้ในดัชนีเดียวกัน ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องโฟกัสหุ้นแแต่ละตัวอย่างละเอียดมากนัก เพียงแค่วิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจ และแนวโน้มตลาดในระยะยาวก็พอแล้ว
1. แล้วเราควรเทรดดัชนีไหนดี?
สำหรับตลาดที่ควรเลือกลงทุน แนะนำให้พิจารณาจากมูลค่าตลาดรวมของแต่ละตลาดหุ้น
ข้อมูลของมูลค่าตลาดหุ้นในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500) ยังคงเป็นอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ตลาดหุ้นจีน (A-shares) ตลาดหุ้นฮ่องกง (Hang Seng) รวมถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่น (BOJ) และอินเดีย (Nifty50) ก็มีผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจ เช่นกัน
ทำไมต้องดูมูลค่าตลาดรวม? เพราะตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายสูงจะมีความเคลื่อนไหวที่ดีและมีสภาพคล่องสูง ทำให้คุณสามารถเข้าและออกตลาดได้ทันเวลา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้าลงทุนในตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นอินเดียมีการปรับตัวขึ้นถึง 186% ในช่วงสี่ปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งหลายสถาบันวอลล์สตรีทมองว่าตลาดหุ้นอินเดียมีการประเมินมูลค่าสูงเกินไป นอกจากนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีความเปราะบางเนื่องจากคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดยสรุปจากทั้งมูลค่าตลาดและแนวโน้มราคา ผมมองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลากหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกงยังมีโอกาสในการลงทุน และเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ได้
2. วิธีการเทรด
เมื่อเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุนได้แล้ว ขั้นต่อไป คือ การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม ซึ่งในตอนนี้ผมแนะนำให้ใช้โบรกเกอร์ EBC เป็นหลัก
ทำไมถึงให้เลือกโบรกเกอร์ EBC
2.1 ต้นทุนการเทรดของโบรกกเกอร์ EBC ต่ำ
EBC ได้ปรับเพิ่มสภาพคล่อง ส่งผลให้สเปรดของดัชนีหลักลดลงถึง 85% ทั้งสามดัชนีหลักของS&P 500, A50, และ Hang Seng มีสเปรดที่ต่ำที่สุด
ถ้าคุณสงสัยว่าข้อมูลนี้จริงหรือเปล่า? ให้ลองเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมดูก็จะเห็นได้ชัดเจน ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐมีสเปรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเกือบครึ่งหนึ่ง ส่วนดัชนีฮั่งเส็งมีสเปรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมกว่า 30% การลดลงนี้เพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างชัดเจน ซึ่งก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมแนะนำโบรกเกอร์ EBC Financial Group
2.2 สภาพแวดล้อมในการเทรด
ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด สภาพคล่องและเงื่อนไขการดำเนินการเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ตลาดหุ้นมีลักษณะเฉพาะตามภูมิภาค ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องได้ง่าย ตัวอย่างเช่น A-share เปิดให้เทรดในช่วงเวลาเอเชีย ดังนั้นปริมาณการเทรด A50 อาจลดลงอย่างมากในช่วงตลาดอเมริกา ซึ่งทดสอบความสามารถของโบรกเกอร์ Forex ในการรองรับสภาพคล่อง
สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือในช่วงที่มีความผันผวนสูงโบรกเกอร์ EBC แทบจะไม่เกิดการหลุดหรือล่าช้า ทำให้สามารถจับโอกาสจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรได้อย่างแม่นยำ ดังนั้น สภาพแวดล้อมการเทรดที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเทรดดัชนี
2.3 สนับสนุนการเทรดที่หลากหลาย
หากคุณเพิ่งเริ่มเทรดดัชนี และยังไม่แน่ใจว่าจะเทรดอย่างไร ก็สามารถใช้เครื่องมือสนับสนุนการเทรดของโบรคเกอร์ได้ EBC ขึ้นชื่อเรื่องการสนับสนุนการเทรดที่ครบถ้วน โดยเร็ว ๆ นี้ EBC ได้ร่วมมือกับ Trading Central ซึ่งมีวิธีการสนับสนุนการตัดสินใจอยู่ 4 แบบ ตัวอย่างเช่น มุมมองของนักวิเคราะห์จะประกอบไปด้วยการวิเคราะห์กลยุทธ์และระดับราคาสำหรับทุกดัชนี คุณสามารถติดตามเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของกลยุทธ์และเรียนรู้ทักษะต่างๆ ไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือ Alpha Indicator ซึ่งปรับใช้กับ MT4/MT5 เพื่อแสดงสัญญาณบนกราฟโดยตรง
เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เราเทรดดัชนีได้อย่างมีมุมมองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
2.4 การจ่ายปันผลที่ชัดเจน
การเทรดดัชนีหุ้นยังมีการจ่ายปันผลด้วย เพียงแต่แพลตฟอร์มจะกำหนดวันที่จ่ายปันผลตามเวลาการจ่ายปันผลของหุ้นส่วนประกอบ
ในการเทรดดัชนีของ EBC หากถือครองดัชนีจนถึงวันก่อนปันผล คุณจะได้รับปันผลตามสัดส่วนที่เหมาะสม นับเป็นรายได้เสริม แม้ว่าผลตอบแทนจากการปันผลจะไม่มาก แต่การแสดงข้อมูลทั้งหมดอย่างชัดเจนก็สะท้อนถึงความโปร่งใสของโบรกเกอร์ ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
โดยสรุป การเทรดดัชนีเป็นวิธีการเข้าตลาดหุ้นที่ดีสำหรับมือใหม่ แนะนำให้เทรดดัชนีของตลาดที่มีมูลค่าตลาดและมีสภาพคล่องสูง นอกจากนี้ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีต้นทุนต่ำ สภาพแวดล้อมการเทรดที่ดี และมีการสนับสนุน Indicator ครบวงจร EBC เป็นโบรกเกอร์ที่ผมเห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมในการเทรดดัชนี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น