เช็คใบอนุญาติ 3 ขั้นตอน ในเว็บไซต์ FCA

วันนี้เราจะมาดูวิธีการตรวจสอบว่า โบรกเกอร์ Forex ใดได้รับการคุ้มครองจาก FSCS ตามที่เว็บไซต์ FCA แนะนำ

ตรวจสอบการคุ้มครองของ FSCS

หน่วยงานการเงิน FCA ตรวจสอบ กองทุนประกันความเสี่ยง FSCS ออกเป็น 3 ขั้นตอน :

1. ตรวจสอบการกำกับดูแล : โบรกเกอร์ Forex ต้องได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงาน FCA (Financial Services Compensation Scheme) หรือ หน่วยงาน PRA (Prudential Regulation Authority)

2. ตรวจสอบการดำเนินการของบริษัท : การดำเนินการที่ได้รับอนุญาตจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานการเงิน FCA หรือ PRA

3. ตรวจสอบการคุ้มครองกองทุน FSCS : ความคุ้มครองหลักที่โบรกเกอร์รับผิดชอบจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล FSCS


เรามาลงรายละเอียดว่า 3 ขั้นตอนนี้มีลักษณะอย่างไร


ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบโบรกเกอร์ Forex ตามหมายเลขกำกับดูแล

คุณสามารถตรวจสอบโบรกเกอร์ Forex โดยใช้หมายเลขใบอนุญาตกำกับดูแล พร้อมดูมาตรการป้องกัน

ตัวอย่างเช่น โบรกเกอร์ EBC มีหมายเลขใบอนุญาต 927552 เมื่อกรอกเสร็จ จะแสดงข้อมูลโบรกเกอร์ EBC Financial Group  

ตรวจสอบหมายเลขใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex


จากนั้น ให้ดูข้อมูลสองส่วนนี้ :

1.1 สถานะของบริษัท (Firm Status) : ข้อมูลในส่วน Status และ Type ต้องระบุว่า "Authorised" และ "Regulated" เท่านั้น

สังเกตข้อความ Status และ Type

1.2 Client Money : ต้องแสดง "can hold and can control" ซึ่งหมายความว่า สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้อง หากแสดง (can not hold and can not control) หมายถึง ใบอนุญาตไม่มีสิทธิ์ดำเนินกิจการได้

Client Money เป็นตัวชี้วัดว่ากิจการไหนสามารถดำเนินธุรกิจได้

สองส่วนนี้ แสดงว่าให้เห็นว่า โบรกเกอร์ EBC Group มีใบอนุญาตกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบจาก FCA และมีสิทธิ์ดำเนินกิจการ

สำหรับมาตรการป้องกันที่โบรกเกอร์มี 2 อย่าง:

1. ธนาคารผู้ดูแลทรัพย์สินอิสระ

2. ประกันความรับผิดทางวิชาชีพ (PI Insurance)

ธนาคารผู้ดูแลทรัพย์สินอิสระช่วยรับประกันว่าเงินทุนของเราแยกออกจากกัน โดยทั่วไปแล้วโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือจะให้ข้อมูลบัญชีเพื่อให้เราตรวจสอบความสอดคล้องของข้อมูลบัญชี เช่น โบรกเกอร์ EBC Group ได้ประกาศบัญชีผู้ดูแลทรัพย์สินอิสระที่ Barclays ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ผ่านการโอนเงิน

นอกจากนี้สำนักงานการเงิน FCA มีการควบคุมอย่างเข้มงวดต่อธนาคารท้องถิ่น โดยเฉพาะธนาคารข้ามชาติท้องถิ่น ดังนั้นแม้ว่าการเปิดบัญชีจะมีเกณฑ์ที่สูง แต่การป้องกันที่ได้รับก็สูงที่สุด โดยในอังกฤษ ธนาคารที่สำคัญคือ Barclays และ HSBC

อีกทั้ง หน่วยงานทางการเงิน FCA ยังมีข้อกำหนดบังคับในการซื้อ PI Insurance โดยมีจำนวนเงินคุ้มครองขั้นต่ำที่ 1 ล้านปอนด์ ซึ่งขึ้นอยู่กับสัญญาที่โบรกเกอร์ได้ซื้อไว้

โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งโบรกเกอร์ซื้อประกันจำนวนเงินคุ้มครองที่สูงขึ้น ก็ยิ่งบ่งบอกถึงระดับการป้องกันที่สูงขึ้น เช่น โบรคเกอร์ EBC ซื้อประกันที่มีจำนวนเงินคุ้มครอง 10 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเป็นการรับประกันที่เชื่อถือได้มาก


2. ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ Forex มีสิทธิ์ในการดำเนินกิจกรรมตามที่ต้องการหรือไม่? 

ขั้นตอนนี้จะใช้ข้อมูลจากหน้าการตรวจสอบ โดยให้ดูที่ประเภทของการลงทุน (Investment Type) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมี 3 ประเภท

ประเภทการลงทุนของโบรกเกอร์ Forex

หากโบรคเกอร์ไม่มีประเภทการลงทุนทั้ง 3 อย่างนี้ แสดงว่าไม่มีสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นไม่ควรเลือกโบรกเกอร์เหล่านี้

การอนุญาตของโบรกเกอร์

สิ่งที่ควรรู้ ยิ่งแพลตฟอร์มมีสิทธิ์ในการดำเนินกิจกรรมมากเท่าไร ความน่าเชื่อถือก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากสำนักงานการเงิน FCA จะทำการตรวจสอบและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการอนุญาตสำหรับแต่ละประเภทแยกกัน ซึ่งสำหรับการอนุญาต 10 ประเภท ค่าใช้จ่ายสูงสุดอาจสูงถึง 217,000 ปอนด์ นี่เป็นการทดสอบศักยภาพและความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์อย่างแท้จริง ดังนั้น โบรกเกอร์ที่ได้รับการอนุญาตในการดำเนินการอย่าง EBC Group จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูง เพราะมีการอนุญาตถึง 15 ประเภท 


3. ตรวจสอบช่องทางการติดต่อ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องนี้มากที่สุด

เพียงแค่เปลี่ยนตัวอักษรหนึ่งหรือสองตัวในโดเมน ก็สามารถก๊อปเว็บไซต์ของแพลตฟอร์มที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ ทำให้ผู้ที่ไม่รู้เรื่องตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ดังนั้น คุณควรตรวจสอบข้อมูลตามที่ FCA ให้มาอย่างละเอียด

หากคุณยังไม่แน่ใจ คุณสามารถส่งลิงก์ไปให้ฝ่ายบริการลูกค้าของโบรกเกอร์ ตรวจสอบได้ เช่น โบรกเกอร์ EBC มีทีมบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับการตอบกลับ


แน่นอนว่าในปัจจุบันมิจฉาชีพมีวิธีการหลอกลวงใหม่เยอะมาก สิ่งที่คุณต่อทำคือ

① ตรวจสอบเว็บไซต์ของ FCA เป็นประจำ

FCA มีการตรวจสอบแพลตฟอร์มปลอมอย่างเข้มงวด


ในหมวด “Warnings” FCA ได้อัปเดตข้อมูลเตือนภัยไปแล้ว 14,682 รายการ คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าแพลตฟอร์มของคุณมีปัญหาหรือไม่ โดยเฉพาะว่ามีสถานะเป็นแพลตฟอร์มปลอมหรือไม่


② อย่าเชื่อวิธีการลงทะเบียนหรือข้อความแปลกๆ

โบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือหลายแห่งมักจะติดต่อหาคุณในนามของแพลตฟอร์มที่ถูกต้องตามกฎหมาย นี่คือจุดที่หน่วยงาน FCA เตือนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาติดต่อหาคุณและแนะนำให้คุณลงทุน

นอกจากนี้ ขอสังเกตของผมคือ โบรเกอกร์ที่ไม่ถูกกฎหมายมักใช้ข้อมูลและเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อคุณเริ่มเชื่อถือ เหล่ามิจฉาชีพจะอ้างว่าเว็บไซต์จะมีการย้ายหรือมีข้ออ้างอื่นๆ เพื่อนำคุณเข้าสู่ช่องทางของพวกเขา

สถานการณ์นี้ป้องกันได้ยาก

ดังนั้น คุณต้องจำไว้ว่า ข้อมูลใดๆ ที่เปลี่ยนแปลงในแพลตฟอร์มที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องถูกสะท้อนในเว็บไซต์ของ FCA โดยตรง ไม่มีการย้ายเว็บไซต์โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบ

หากมีข้อมูลที่ขัดแย้งกับข้อมูลของสำนักการเงิน FCA คุณต้องระมัดระวังไว้ก่อน

โดยรวมแล้ว วิธีการตรวจสอบที่สำนักการเงิน FCA แสดงออกมานั้นค่อนข้างง่ายและชัดเจน แต่ยิ่งง่าย ก็ยิ่งต้องไม่ประมาท เพราะหากไม่ใช่ความผิดพลาดของโบรกเกอร์ แต่เป็นเพราะคุณทำการเทรดในโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล คุณจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากหหน่วยงาน FSCS ดังนั้น วิธีการตรวจสอบนี้ จะสอนให้คุณรู้วิธีค้นหาโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA อย่างแท้จริง 

 

มีหนึ่งประโยคอย่างจะบอกให้เทรดเดอร์ทราบ หากตัดสินใจเทรดแล้ว คุณต้องคำนึกถึงความปลอดภัยของเงินทุนเป็นหลัก

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถือครองทองคำของแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันอย่างไร？

รูปภาพ
การติดตามข้อมูลการถือครองทองคำ เพื่อใช้ศึกษาทิศทางของราคาทองคำ ในปัจจุบัน ข้อมูลเกี่ยวกับการถือครองทองคำ มีอยู่ 4 ประเภท ได้แก่: 1. การถือครองทองคำของธนาคารกลาง 2. กองทุน ETF ทองคำ 3. ข้อมูลการถือครองจาก CFTC 4. ข้อมูลการถือครองทองคำใน COMEX แบบเรียลไทม์ แล้วทั้ง 4 ประเภทนี้ มีความแตกต่างอย่างไร？ 1.การสำรองทองคำของธนาคารกลาง การซื้อทองคำของธนาคารกลาง ได้รับความสนใจมากในปีนี้ เนื่องจากนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น ก็คือการที่ธนาคารกลางหลายประเทศมีบทบาทในการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ทองคำทั่วโลกที่ขุดขึ้นมา ส่วนมากจะถูกเก็บไว้ในธนาคารกลาง โดยถือครองทองคำรวมกันประมาณ 27,734.3 ตัน ซึ่งแบ่งตามภูมิภาคดังนี้:  ① ทวีปยุโรปตะวันตก ถือครองมากที่สุดที่ 10,733.58 ตัน ② ทวีปอเมริกาเหนือ ถือครอง 8,133.46 ตัน แต่ประเทศแคนาดาไม่มีการสำรองทองคำ ดังนั้น สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศที่มีการสำรองทองคำมากที่สุดในอเมริกาเหนือ ③ ทวีปเอเชียตะวันออก ถือครองทองคำ 3,110.29 ตัน ธนาคารกลางทั่วโลกทั้ง 3 ทวีปนี้ ถือครองทองคำมากที่สุด แต่เมื่อเทียบกับทองคำที่อยู่ใน กองทุน ETF ทองค (Gold ET...
อ่านเพิ่มเติม

ช่วงนี้ตลาดผันผวน เทรดยากขึ้น ทำอย่างไรให้ดี?

รูปภาพ
นับตั้งแต่การเลือกตั้งสหรัฐฯ สิ้นสุดลง ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสินทรัพย์บางประเภทดูเหมือนจะเข้าสู่จุดเปลี่ยน ซึ่งทำให้มีโอกาสในการเทรดระหว่างวันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราจะทำการเทรดระหว่างวันอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ? 1. เลือกช่วงเวลาเทรดให้เหมาะสม ขั้นตอนแรกของการทำการซื้อขายระหว่างวัน (Day Trading) คือ การกำหนดช่วงเวลาการซื้อขายให้ชัดเจน คำแนะนำ ควรเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมที่อยู่ในช่วง 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หากเลือกกรอบเวลาที่มากกว่า 4 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น อาจทำให้อินดิเคเตอร์ทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ 2. การซื้อขายในช่วงกรอบราคา (Range Trading) ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง การเทรดจากฝ่ายซื้อและฝ่ายขายจะรุนแรงมาก ดังนั้นแนวโน้มราคามักจะเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ภายในช่วงกรอบราคา เช่น เครื่องมือ OrderFlow ของ EBC ที่แสดงการกระจายของคำสั่งซื้อต่างๆ คุณจะสามารถเห็นช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวแบบSide ways โดยทั่วไป ช่วงที่ราคามีการกระจายตัวของคำสั่ง มักจะมากกว่าช่วงที่ราคามีการทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ดังนั้น สำหรับการเทรดระหว่างวัน การซื้อขายในกรอบราคาอาจเปิดโอกาสให้ทำกำไรจากการขายที่ราคาสู...
อ่านเพิ่มเติม

เครื่องมือ Pending Order ใน Order Flow

เมื่อเร็ว ๆ นี้เครื่องมือ Order Flow ของโบรกเกอร์ EBC มีเครื่องมือการซื้อขายแบบ Pending Order หรือการกระจายของคำสั่งซื้อล่วงหน้า เครื่องมือที่เราใช้กันบ่อย คือ แผนภูมิการกระจายคำสั่งที่ได้ดำเนินการแล้วในเครื่องมือ Order Flow ซึ่งแสดงถึงคำสั่งซื้อขายที่เกิดขึ้นในตลาด โดยช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของแรงซื้อขายในตลาดและเปรียบเทียบกันได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น บริเวณที่มีการสะสมของปริมาณการซื้อขายอย่างหนาแน่น มักจะมีแนวโน้มราคาที่เคลื่อนไหวแบบทรงตัว และจุดที่มีการทะลุแนวราคามักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีปริมาณการซื้อขายน้อย คุณสามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า ยิ่งมีการสะสมของปริมาณการซื้อขายมากเท่าไร การแย่งชิงในตลาดก็ยิ่งรุนแรง ซึ่งทำให้ราคาคงตัวอยู่ในช่วงแคบ ๆ แต่เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มหมดแรงในการสะสมปริมาณการซื้อขาย ฝ่ายที่ได้เปรียบก็สามารถผลักดันราคาให้เคลื่อนไหวได้ด้วยการซื้อขายเพียงเล็กน้อย จากการสะสมของปริมาณการซื้อขายและการเคลื่อนไหวของคำสั่งซื้อในตลาด คุณสามารถใช้ข้อมูล Order Flow ( การไหลของคำสั่งซื้อ)  ในอดีตมาช่วยในการหาจุดที่อาจเป็นแนวรับและแนวต้านในตลาดได้ แต่บางครั้งเราก็อาจเจ...
อ่านเพิ่มเติม