3 ข้อ สำหรับการเลือกแพลตฟอร์ม
ในตลาดมีแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์จำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถนับได้ทั้งหมด แต่จากข้อมูลเชิงลึก มีแพลตฟอร์มไม่น้อยกว่าหลายพันแห่ง
การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมจากหลายพันแห่งนั้นเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร
ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณพิจารณา 3 ประการดังต่อไปนี้:
1.
การกำกับดูแล
การกำกับดูแลแสดงถึงคุณภาพของแพลตฟอร์ม
และยังเกี่ยวข้องกับหลายๆ เรื่องต่อจากนี้ เช่น การฝากเงินที่ปลอดภัย
ธนาคารชั้นนำทั่วไปจะให้บริการการฝากเงินที่ปลอดภัยกับแพลตฟอร์มที่มีการกำกับดูแลดี
เช่น Barclays หรือ HSBC
ตัวอย่างเช่น EBC Financial Group มีใบอนุญาตการกำกับดูแลจาก
FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย)
และ CIMA (หมู่เกาะเคย์แมน)
และมีการเชื่อมต่อกับธนาคารชั้นนำมากกว่า 36 แห่ง
นอกจากนี้ EBC ยังมีบัญชี Corporation
Banking Account จากธนาคาร Barclays ซึ่งมีเงื่อนไขว่าต้องมีรายได้และเงินฝากถึง
6.5 ล้านปอนด์
แต่สามารถให้บริการบัญชีการฝากเงินที่ปลอดภัยระดับ AAA
2.
ความเสถียร หลายคนเลือกแพลตฟอร์มโดยดูจากค่าคอมมิชชั่น
ค่า swap หรือโปรโมชั่น แต่เราคิดว่า
ความเสถียรสำคัญกว่า
แพลตฟอร์มที่มีค่าสเปรดต่ำ และไม่มีปัญหาเรื่องการล่าช้าหรือการ
disconnect ในช่วงเวลาสำคัญ
จะทำให้คุณเสียโอกาส
วิธีหนึ่งในการตรวจสอบความเสถียรของแพลตฟอร์มคือดูที่การ slippage
(ราคาที่เกิดการเคลื่อนไหวจากราคาที่ตั้งไว้) ตัวอย่างเช่น
ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 0.1 pip ดังนั้นแพลตฟอร์มที่ดีควรมีค่า
slippage ที่ไม่มากกว่าค่าเฉลี่ยนี้
แพลตฟอร์มที่ดีเช่น EBC สามารถมีค่า slippage
ที่เป็นบวก 0.2-0.3 pip ซึ่งหมายความว่าต้นทุนที่แท้จริงอาจต่ำกว่าค่าสเปรดที่กำหนด
3.
การบริการ แพลตฟอร์มที่ดีควรมีการบริการ
24 ชั่วโมง และรวดเร็ว
แพลตฟอร์มที่ดีจะมีทีมบริการที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงและรองรับหลายภาษา ทีมบริการต้องมีความรู้และตอบคำถามได้ดี
เช่นเดียวกับการให้บริการเครื่องมือการเทรดต่างๆ เช่น EBC มีการให้บริการเครื่องมือเช่น
pivot point calculator, position calculator และ profit/loss
calculator
สรุปคือ ในการเลือกแพลตฟอร์ม คุณควรพิจารณาความปลอดภัย
ความเสถียร และความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์การเทรดที่ดีที่สุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น