ความลึกของตลาด (MARKET DEPTH) คืออะไร มีความสำคัญต่อการเลือกแพลตฟอร์มหรือไม่?

สองสามวันที่ผ่านมา มีเทรดเดอร์จำนวนไม่น้อยส่งคำถามเข้ามาอย่างมากเกี่ยวกับ ความลึกของตลาด

แพลตฟอร์มหลายแห่งมักจะพูดถึง "ความลึกของตลาด" อยู่บ่อยครั้ง แต่บอกตามตรง ถ้าไม่ได้ตั้งใจศึกษา หลายคนอาจไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร

จากมุมมองของเรา ความลึกของตลาดสามารถสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของแพลตฟอร์ม และยังส่งผลต่อการเลือกแพลตฟอร์มของเทรดเดอร์โดยตรง  ดังนั้นวันนี้เรามาพูดคุยเกี่ยวกับความลึกของตลาดกัน


1. ความลึกของตลาดคืออะไร?

ความลึกของตลาดคืออะไร คำอธิบายในสารานุกรมบอกว่า เป็นความสามารถของราคาหลักทรัพย์ที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อมีการซื้อขายจำนวนมาก

พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อมีคำสั่งจำนวนมากเข้ามาในตลาด แพลตฟอร์มมีความสามารถในการรับมือคำสั่งเหล่านี้ โดยไม่เกิดช่องว่างของราคา หรือความคลาดเคลื่อนของราคา

ในสารานุกรมบางแห่ง กำหนดความลึกของตลาดว่าเป็นจำนวนคำสั่งซื้อขายที่ยังไม่ได้รับการดำเนินการ

กล่าวคือ หากมีคำสั่งซื้อในตลาด และถึงระดับราคาหนึ่ง จำนวนคำสั่งที่ยังไม่ได้รับการดำเนินการในระดับราคานั้น ยิ่งมีมาก คำสั่งซื้อนั้นก็ยิ่งมีโอกาสได้รับการดำเนินการมาก และราคาที่ได้จะยิ่งใกล้เคียงกับราคาตลาดปัจจุบัน

ไม่ว่าจะมองจากมุมใด ความลึกของตลาดก็คือสภาพคล่องที่แพลตฟอร์มสามารถให้ได้ ดังนั้นแพลตฟอร์มที่มีสภาพคล่องดีกว่า มักจะมีความลึกของตลาดดีกว่า ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม EBC มีการเชื่อมต่อกับสภาพคล่องชั้นนำกว่า 36 แห่ง ดังนั้นสามารถสนอราคาได้ 5 ระดับ

 

2. วิธีดูความลึกของตลาด

หลังจากที่เข้าใจว่าความลึกของตลาดคืออะไร เรามาดูกันว่าความลึกของตลาดมีลักษณะอย่างไร

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์ม EBC ที่มีความลึกของตลาด 5 ระดับ


ความลึกตลาด

ระดับการเสนอราคาที่หนึ่ง หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นการเสนอราคาชั้นแรก ซึ่งถือว่าเป็นการเสนอราคาเริ่มต้นที่แท้จริง ส่วนต่างราคาก็เป็นระดับต่ำสุดในตลาด อย่างไรก็ตามสินค้าที่แตกต่างกันก็จะให้ส่วนต่างราคาที่แตกต่างกัน เช่น GBPUSD ประมาณ 0.5 จุด ในขณะที่ EURUSD เป็น 0 จุด

ระดับการเสนอราคาที่ 2-5 แม้ว่าส่วนต่างราคาจะเพิ่มขึ้น แต่โดยรวมราคาก็ไม่ต่างจากการเสนอราคาชั้นแรกมาก เป็นราคาที่ค่อนข้างดีในการซื้อขาย  ในการซื้อขายจริง คำสั่งจะจับคู่ตามลำดับ จากชั้นแรกไปถึงชั้นที่สุดท้าย ในการรวบรวมจำนวนคำสั่งห้าระดับคือปริมาณคำสั่งสูงสุดที่แพลตฟอร์มสามารถจัดการได้ในเวลาเดียวกัน

จากรูปจะเห็นได้ว่า จำนวนการเสนอราคา 5 ระดับของแพลตฟอร์ม EBC ได้แก่ 40 ล็อต, 75 ล็อต, 150 ล็อต, 225 ล็อต และ 300 ล็อต รวมประมาณ 790 ล็อต

และนี่เป็นระดับอะไรกันนะ?

จากประสบการณ์ของเรา ส่วนใหญ่แพลตฟอร์มมีความลึกของตลาดประมาณ 2-3 ระดับ นอกจากนี้ ธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆต้องให้สภาพคล่องกับตลาดทั้งหมด ดังนั้นการเสนอราคาชั้นแรกมักจะมีประมาณ 10-15 ล็อต และการเสนอราคาชั้นที่ 2 ประมาณ 30 ล็อต ดังนั้นความลึกของตลาดเฉลี่ยของแพลตฟอร์มหนึ่งๆจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล็อต

ตัวอย่าง ความสามารถในการรับคำสั่งของแพลตฟอร์ม EBC อยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์มอื่นๆ ถึง 2.5-3 เท่า เหมาะสำหรับการซื้อขายตามข้อมูลตลาด

 

3. ความลึกของตลาดมีประโยชน์อะไร?

ดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ความลึกของตลาดคือปริมาณคำสั่งที่แพลตฟอร์มสามารถรับได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

หากปริมาณคำสั่งซื้อขายเกินกว่าความลึกของตลาด หมายความว่าแพลตฟอร์มนั้นไม่มีสภาพคล่อง ในกรณีนี้ จะเกิดความคลาดเคลื่อนของราคาและการเสนอราคาที่ล่าช้า จึงเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ไม่ควรจะได้รับ

ดังนั้น เทรดเดอร์หลายๆคนที่ทำการซื้อขายตามข้อมูลตลาดแล้วไม่สามารถทำกำไรได้ อาจไม่ใช่เพราะจุดเข้าตลาดไม่ดี แต่เพราะแพลตฟอร์มไม่มีสภาพคล่อง เราเคยเห็นแพลตฟอร์มที่แย่ที่สุด อัตราคลาดเคลื่อนราคาในการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรอยู่ที่ 30 จุด แม้จะหักส่วนต่างราคาแล้ว การจับจังหวะที่ก้นตลาดก็ยังแทบไม่มีโอกาสทำกำไร

อีกอย่างหนึ่งคือการเสนอราคาชั้นแรก การเสนอราคาชั้นแรกคือราคาต้นทุน คือราคาตลาดจากธนาคาร

เมื่อซื้อขายในช่วงที่ราคามีการแกว่งตัวสูงต่ำ หากทำการซื้อขายด้วยการเสนอราคาชั้นแรก การหมุนเวียนจะสะสมกำไรได้มาก ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม EBC มีการเสนอราคาชั้นแรกมากกว่า 40 ล็อต ซึ่งสามารถครอบคลุมความต้องการซื้อขายในช่วงที่ราคามีการแกว่งตัวได้

แต่ถ้าหากการเสนอราคาชั้นแรกมีจำนวนน้อย หรือไม่มีการเสนอราคาต้นทุน การทำการซื้อขายในช่วงที่ราคามีการแกว่งตัว หักค่าใช้จ่ายแล้ว กำไรจริงจะน้อยมาก อาจเกิดการแกว่งตัวที่ทำให้กำไรสะสมทั้งหมดสูญเสีย

ดังนั้น ความลึกของตลาดเกี่ยวข้องกับการซื้อขายของเราโดยตรง

โดยสรุป ความลึกของตลาดเป็นตัวชี้วัดที่ดีในการประเมินสภาพคล่องของแพลตฟอร์มและ ในการซื้อขาย เราสามารถใช้มันเป็นตัวช่วยในการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับเราได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถือครองทองคำของแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันอย่างไร?

ช่วงนี้ตลาดผันผวน เทรดยากขึ้น ทำอย่างไรให้ดี?

เครื่องมือ Pending Order ใน Order Flow