ขาดทุนในช่วงแรก ควรหยุดหรือไปต่อดี?

การขาดทุนไม่กี่ครั้งในช่วงเริ่มต้นเป็นเรื่องปกติ เว้นแต่คุณจะมีความสามารถในการวิเคราะห์ตลาดที่ยอดเยี่ยม เช่น การทรุดตัวอย่างกะทันหันที่เกิดจากข่าว การเคลื่อนไหวที่คาดไม่ถึง มักทำให้คุณตื่นตระหนกในครั้งแรก หรือคุณอาจเพิ่งปิดคำสั่งขาย แล้วคำสั่งซื้อกลับถูกหยุดขาดทุนทันที สถานการณ์นี้อาจทำให้คุณสงสัยในตัวเอง เหล่านี้เป็นสถานการณ์ที่เรามักจะเจอในการซื้อขายในอนาคต

1.ควบคุมอัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Risk-Reward Ratio) ประมาณ 5:3 การตั้งจุดหยุดกำไรและหยุดขาดทุนสำคัญมาก อัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยงก็สำคัญมาก ผู้เริ่มต้นมักรู้ว่าต้องตั้งจุดหยุดขาดทุน แต่ส่วนมากเทรดเดอร์บางกลุ่มตั้งจุดหยุดกำไรน้อยและหยุดขาดทุนมาก ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดใหญ่ในการซื้อขาย ควรตั้งอัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ 5:3 หมายถึงทำกำไร 50 ดอลลาร์และยอมรับความเสี่ยงขาดทุน 30 ดอลลาร์ ขอบเขตนี้โดยทั่วไปคือ 2% ของเงินทุน คุณสามารถคำนวณตำแหน่งของจุดหยุดขาดทุนตามสินค้าที่ซื้อขายได้

2.จัดการตำแหน่งอย่างเหมาะสม การควบคุมตำแหน่งสำคัญเท่ากับการตั้งอัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยง เริ่มต้นควรจัดการตำแหน่งที่ 10-20% ของเงินทุน คุณสามารถคำนวณจำนวนสัญญาตามหลักการนี้ แต่เนื่องจากปัญหาการคำนวณจำนวนสัญญาและเงินประกัน เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด คุณสามารถใช้เครื่องมือช่วย ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม EBC Financial Group มีเครื่องมือช่วยครบถ้วน เช่น เครื่องคิดจำนวนตำแหน่ง เครื่องคิดเปอร์เซ็นต์กำไรขาดทุน และเครื่องคิดเงินประกัน ช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงได้ดี

3.เลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ การเริ่มต้นควรมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการซื้อขาย ขั้นแรกต้องเลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ การเลือกแพลตฟอร์มต้องพิจารณาจากการกำกับดูแล ธนาคารผู้ดูแลอิสระ สภาพคล่อง และประกันภัย PI ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม EBC Financial Group ที่มีกำกับดูแลจาก FCA ของอังกฤษ, ASIC ของออสเตรเลีย และ CIMA ของเคย์แมน ทำให้มีความปลอดภัยสูง บัญชีของฉันใน EBC Financial Group ได้รับการดูแลโดยธนาคารบาร์เคลย์ของอังกฤษ และการฝากเงินผ่านทางธนาคารบาร์เคลย์ แสดงว่าเงินทุนของเทรดเดอร์ถูกดูแลอย่างดี

แพลตฟอร์มที่มีกำกับดูแลที่ดีมักมีสภาพคล่องดีด้วย แพลตฟอร์ม EBC Financial Group มีการเชื่อมต่อกับธนาคารและสถาบันการเงินที่หลากหลายถึง 36 แห่ง ทำให้มีสภาพคล่องสูง ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำ และมีประกันภัย PI มูลค่าสูงถึงหลายล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการซื้อขาย

4.ใช้เครื่องมือที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ เครื่องมือที่ง่ายที่สุดคือ Fibonacci หรือที่เรียกว่าอัตราส่วนทองคำ ระวังเมื่อเห็นระดับ 0.618, 0.5 และ 0.382 เพราะอาจมีแรงต้านและแรงสนับสนุน เครื่องมืออื่นที่มีประสิทธิภาพ เช่น MACD ที่ดูการเบี่ยงเบนของแนวโน้ม เมื่อแนวโน้มขึ้นแต่ MACD ลดลง และ DIF กับ DEA ตัดกันลง แสดงว่าแนวโน้มอาจใกล้จะลดลง

EBC

ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม EBC มีเครื่องมือที่สามารถดาวน์โหลดและใช้งานกับ MT4 ได้ เช่น เครื่องมือแสดงข้อมูลซ้อนกัน MTdiver เป็นต้น ช่วยให้การซื้อขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5.รักษาสภาวะจิตใจที่ดี หากคุณรักษาสภาวะจิตใจที่ดี เมื่อประสบการณ์เพิ่มขึ้น คุณจะสามารถสร้างระบบการซื้อขายที่สมบูรณ์ได้ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำกำไรอย่างยั่งยืน

โดยรวมแล้ว การเริ่มต้นซื้อขายอาจมีความท้าทาย แต่หากทำตามห้าข้อนี้ คุณจะสามารถจัดการการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถือครองทองคำของแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันอย่างไร?

ช่วงนี้ตลาดผันผวน เทรดยากขึ้น ทำอย่างไรให้ดี?

เครื่องมือ Pending Order ใน Order Flow