มีวิธีเพิ่มกำไรจากการเทรด ฟอเร็กซ์

มีวิธีเพิ่มกำไรจากการเทรด ฟอเร็กซ์

เทรดเดอร์ทุกคนต่างยากจะทำกำไรให้ได้สูงในเวลาสั้นๆ

มีคำพูดที่ว่า “ความเร็วไม่อาจนำมาซึ่งความสำเร็จ” เมื่อไหร่ที่เรามองหาคำสำเร็จในช่วงเวลาอันสั่น หลายสิ่งมักจะไม่เป็นไปตามที่เราหวัง โดยเฉพาะการเทรด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องหมั่นฝึกฝน ไม่มีวิธีใดที่จะทำให้เชี่ยวชาญได้ ถ้าขาดความอดทน

ถึงแม้ว่าการเทรดจะไม่สามารถสำเร็จได้ในเวลาอันสั้น แต่เราสามารถเพิ่มกำไรง่ายๆได้โดยวิธีดังนี้

1.      จัดการต้นทุนการเทรด

การหาผู้ให้บริการที่มีต้นทุนต่ำ อาจเป็นวิธีที่ตรงและง่ายที่สุด เราสามารถคำนวณง่าย ๆ ได้ดังนี้

ก่อนหน้านี้มีการสำรวจในฟอรั่มเทรด: โดยเฉลี่ยแล้วในหนึ่งเดือนคุณทำการเทรดกี่ครั้ง? จำนวนลอตเฉลี่ยเท่าไหร่?

ผลลัพธ์คือ 73% ของเทรดเดอร์ตอบว่าในหนึ่งเดือนพวกเขาเทรดประมาณ 100-150 ครั้ง เฉลี่ยวันละ 3-5 ครั้ง โดยส่วนใหญ่เป็นลอตขนาด 0.1 และ 0.5

ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันอัตราสเปรดเฉลี่ยของ XAUUSD อยู่ที่ประมาณ 2.8-3.2 ต่ำสุดของ EBC อยู่ที่ 1.9-2 ซึ่งต่างกันประมาณ 0.9-1 จุด

จากผลการสำรวจดังกล่าว หากใช้กลยุทธ์เดียวกันการเทรด XAUUSD บนแพลตฟอร์ม EBC ต้นทุนจะต่างกันประมาณ 0.1*100*0.9*10-0.5*150*1*10 ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 90-750 ดอลลาร์

นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาค่าความคลาดเคลื่อน (Slippage) และดอกเบี้ยข้ามคืน ตัวอย่างเช่น อัตราความคลาดเคลื่อนเฉลี่ยของอุตสาหกรรมคือ -0.1 ขณะที่ EBC เป็น 0.3 ดังนั้นต้นทุนที่ต่างกันจะอยู่ที่ 0.1*100*0.4*100-0.5*100*0.4*150 ประมาณ 40-300 ดอลลาร์

สุดท้ายคือดอกเบี้ยข้ามคืน หากคิดว่าในหนึ่งเดือนมีการถือครองข้ามคืน 4 ครั้ง โดย EBC มีดอกเบี้ยข้ามคืนเฉลี่ย 10 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมคือ 19.78 ดอลลาร์ ความต่างจะอยู่ที่ประมาณ 3.9-19.56 ดอลลาร์

จากการคำนวณข้างต้น แม้แต่เทรดเดอร์ที่มีทุนน้อย หากเลือกแพลตฟอร์ม EBC ที่มีต้นทุนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ต้นทุนต่อเดือนจะต่างกันที่ 9.78*4*0.1-9.78*4*0.5 ประมาณ 133.9-1070 ดอลลาร์

สำหรับผู้เทรดรายใหญ่ ความต่างนี้ยิ่งมีผลมากขึ้น หากต้นทุนส่วนนี้เปลี่ยนเป็นกำไร กำไรจะมากขึ้น

2.      ทำให้การเทรดง่ายขึ้น

การเทรดที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และการใช้ตัวบ่งชี้มาก ไม่ได้หมายความว่าจะมีความแม่นยำมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น จากภาพด้านล่าง เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันถูกตัดลงในระยะสั้น แต่ทันทีที่มันกลับมา และเส้นค่าเฉลี่ย 120 วันและ 200 วันถูกบีบอัดและติดกัน เส้นค่าเฉลี่ย 120 วันกลับขึ้นอีกครั้ง นี่คือแนวโน้มการฟื้นตัวที่ชัดเจนและเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อ

แต่หากเราดู MACD คุณจะพบว่าในช่วงเวลาต่อมา MACD มีแนวโน้มลดลงและเกิดสัญญาณ Divergence

วิธีการเทรดของ EBC


คุณเริ่มลังเลว่าควรจะซื้อหรือไม่ ความลังเลนี้จะคงอยู่จนกว่าค่าเฉลี่ยสองเส้นจะตัดกันที่เส้น 0 และ Histogram จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง คุณถึงจะตัดสินใจเข้าซื้อ และจะพลาดกำไรไปถึง 80 ดอลลาร์

3.      การเข้าใจข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญ

การประกาศข้อมูลสำคัญและเหตุการณ์สำคัญสามารถสร้างความแน่นอนได้มากกว่าช่วงเวลาอื่น

หากอยู่ในจุดเปลี่ยนของวัฏจักรเศรษฐกิจ อาจเกิดแนวโน้มตลาด ตัวอย่างเช่น ตลาดทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังวิกฤตการเงินปี 2008 ทำให้ราคาทองคำพุ่งไปใกล้เคียง 2000 ดอลล่า

วิธีการเทรดของ EBC


ในการเทรด ข้อมูลพื้นฐานอาจมีมากมาย แต่ปัจจัยสำคัญมีไม่กี่อย่าง

เช่น ทองคำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอุปสงค์และอุปทาน อัตราเงินเฟ้อ ความกลัวความเสี่ยง และนโยบายของเฟด การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้เข้าใจแนวโน้มได้ดีขึ้น

4.      การตามสัญญาณ

การตามสัญญาณอาจเป็นทางเข้าที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นเทรด

การตามสัญญาณหมายถึงการตามสัญญาณของคนอื่น มีสัญญาณที่ดีที่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ นี่เป็นวิธีที่เร็วในการเพิ่มกำไร

แต่ต้องระวังสิ่งเหล่านี้:

ก่อนอื่น ชุมชนการตามสัญญาณต้องเปิดเผยและโปร่งใส

หลายชุมชนการตามสัญญาณแสดงผลกำไรเกิน 100% แต่เมื่อคุณตามกลับพบว่าขาดทุนมากกว่ากำไร และมีการเทรดหลายครั้งแต่ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดการเทรดได้ นี่อาจเป็นการปลอมแปลงสัญญาณ

ชุมชนการตามสัญญาณที่ดีต้องให้ข้อมูลตรวจสอบได้ เช่น ชุมชนการตามสัญญาณของ EBC สามารถตรวจสอบรายละเอียดการสั่งซื้อแต่ละครั้งได้ ทั้งเวลาการเข้าซื้อ จุดตัดขาดทุน และจำนวนลอต เป็นต้น

นอกจากนี้ ชุมชนการตามสัญญาณที่ดีต้องมีการกรองสัญญาณที่เป็นระบบ

ตัวอย่างเช่น หากมีสัญญาณที่มีกำไร 800% ในเดือนนี้ คุณอาจคิดว่าสัญญาณนี้ยอดเยี่ยม แต่ความจริงคือสัญญาณนี้มีการถดถอยถึง 95% ก่อนที่จะฟื้นตัวจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ

สัญญาณที่มีการถดถอยสูงมักไม่เสถียรและไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น แต่หากชุมชนการตามสัญญาณไม่แสดงข้อมูลเหล่านี้ คุณจะไม่ทราบ

ชุมชนการตามสัญญาณที่ดีต้องใช้ตัวบ่งชี้ต่าง ๆ เช่น ชุมชนการตามสัญญาณของ EBC ใช้ระบบการประเมิน 6 มิติ จากการวิเคราะห์การถดถอยสูงสุด อัตราส่วนชาร์ป เป็นต้น ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้ในกองทุน เพื่อให้เข้าใจแนวโน้มของสัญญาณได้ครบถ้วน

สรุปแล้ว เราสามารถเพิ่มกำไรโดยจัดการเทรดให้เหมาะสม

ใช้ตัวบ่งชี้ที่ง่ายและสัญญาณที่ชัดเจน หลีกเลี่ยงสัญญาณที่รบกวน; ตามสัญญาณ เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ผ่านช่วงเริ่มต้นของการเทรด; หาผู้ให้บริการที่มีต้นทุนต่ำ ทั้งเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย

ถ้าเทรดเดอร์มีการจัดการที่ดี เราเชื่อว่าคุณจะสามารถเพิ่มกำไรได้อย่างแน่นอน

 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถือครองทองคำของแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันอย่างไร?

ช่วงนี้ตลาดผันผวน เทรดยากขึ้น ทำอย่างไรให้ดี?

เครื่องมือ Pending Order ใน Order Flow