ทำไมรู้สึกว่าเริ่มต้นกับการซื้อขายฟอเร็กซ์ยาก? คุณอาจต้องเข้าใจสี่ประเด็นนี้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความนิยมในการซื้อขายฟอเร็กซ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก และได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก

เมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อขายอื่น ๆ ฟอเร็กซ์ดูเหมือนจะง่ายกว่า เพียงแค่ดูแนวโน้มราคาและข้อมูลคาดการณ์ ซึ่งมักจะเน้นเพียงหนึ่งหรือสองคู่สกุลเงิน จึงต้องวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด

ในขณะที่การซื้อขายหุ้นต้องดูที่หุ้นรายตัว แนวโน้มตลาด วัฏจักรเศรษฐกิจ และรายงานทางการเงินของบริษัท การซื้อขายฟิวเจอร์สต้องเข้าใจเรื่อง contango และ backwardation การเปลี่ยนสัญญา และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงวัฏจักรของสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ และห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

ถึงแม้ว่าฟอเร็กซ์จะดูง่าย แต่ก็ยังมีหลายคนรู้สึกว่าการเริ่มต้นกับฟอเร็กซ์นั้นยาก ไม่ใช่เพราะเข้าใจยาก แต่เพราะรู้สึกว่ายากที่จะทำกำไรได้ จากประสบการณ์ของเรา ปัญหานี้มักเกิดจากบางปัจจัยที่คุณอาจมองข้ามไป

หากคุณมีปัญหาเหล่านี้ ลองพิจารณาประเด็นต่อไปนี้เพื่อหาทางแก้ไข

1. ค่าใช้จ่ายสูงเกินไปหรือไม่?

เมื่อเริ่มต้นการซื้อขาย อารมณ์ของคุณมักจะถูกกระทบโดยความผันผวนของตลาด โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้เลเวอเรจ การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยสามารถส่งผลให้เกิดกำไรหรือขาดทุนหลายสิบหรือหลายร้อยดอลลาร์

หลายคนจึงเลือกที่จะซื้อขายระยะสั้น ทำกำไรเพียงไม่กี่จุดและออกจากตลาดบ่อยครั้ง แต่การทำกำไรเล็กน้อยนี้จะต้องหักค่าคอมมิชชั่นหรือสเปรดออกไป เทรดเดอร์ที่ซื้อขายทองคำในแพลตฟอร์มที่มีสเปรด 4.7 จุด บางครั้งกำไร 5 จุดของเขากลับถูกกินไปโดยสเปรดเกือบหมด ซึ่งทำให้ยากที่จะทำกำไรได้

2. มีการเกิดการหลุดจากราคาหรือไม่?

การหลุดจากราคา (slippage) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการซื้อขายจริง แต่หากเกิดบ่อย ๆ และมากเกินไปก็เป็นปัญหา

เราเคยเห็นเหตุการณ์ที่ราคาเคลื่อนไหวไป 57 จุดในช่วงประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ ทำให้บัญชีของเทรดเดอร์บางกลุ่มถูกปิดอัตโนมัติ ถ้าคุณเจอแพลตฟอร์มที่เกิดการหลุดจากราคาบ่อย ๆ ก็ยากที่จะทำกำไรได้

คำแนะนำของเราคือ ทดลองด้วยการซื้อขายเล็ก ๆ ในช่วงประกาศตัวเลขสำคัญ เช่น การประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เพื่อดูว่ามีการหลุดจากราคาอย่างไร

แพลตฟอร์มที่ดีควรมีการหลุดจากราคาน้อยมากหรือไม่มีเลยในช่วงเวลาปกติ ตัวอย่างเช่น EBC Group มีการหลุดจากราคาน้อยกว่า 0.3 จุด แม้ในช่วงประกาศตัวเลขสำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสถียรของการให้บริการ

3. เรียนรู้เทคนิคการซื้อขายง่าย ๆ

หลายคนที่เคยชินกับการซื้อขายหุ้นแบบ T+1 เมื่อมาเริ่มต้นกับฟอเร็กซ์อาจรู้สึกว่าไม่สามารถปรับตัวเข้ากับจังหวะการซื้อขายได้

การมีเลเวอเรจทำให้การจัดการสถานะ (position management) ยากขึ้น เราแนะนำว่าผู้เริ่มต้นควรรักษาสถานะการซื้อขายให้อยู่ต่ำกว่า 20% ของเงินทุน

นอกจากนี้ ยังควรใช้เครื่องมือช่วย เช่น เครื่องมือจัดการสถานะในแพลตฟอร์ม EBC ที่ช่วยคำนวณสถานะที่เหมาะสมจากราคาที่ต้องการและระดับการยอมรับความเสี่ยง

ควรรักษาอัตราส่วนกำไรต่อขาดทุน (risk-reward ratio) ให้อยู่ที่ 3:2 หรือสูงกว่า และไม่ควรใช้การตั้งกำไรขนาดเล็กเทียบกับการยอมรับการขาดทุนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

4. เข้าใจตลาดและเรียนรู้การหาความแน่นอนจากระยะยาว

นี่เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ หลายคนที่ชอบการลงทุนระยะยาวในหุ้น เมื่อเข้าสู่ตลาดฟอเร็กซ์จะกลายเป็นนักลงทุนระยะสั้นทันที

สาเหตุหลักคือความไม่เข้าใจตลาดฟอเร็กซ์ ทำให้เกิดการซื้อขายตามความผันผวน แต่ถ้าเข้าใจตลาดฟอเร็กซ์ดี คุณจะเห็นว่ามีลักษณะวัฏจักรที่ชัดเจน

Forex EBC

ตัวอย่างเช่น ทองคำ มีวัฏจักร 3-5 ปี เมื่อเข้าสู่ช่วงลดดอกเบี้ย ราคาทองคำจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจนกว่าจะสิ้นสุดวัฏจักรลดดอกเบี้ย

Forex EBC

ตลาดฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา ทำให้สามารถใช้ตรรกะง่าย ๆ ในการตัดสินใจ เช่น ค่าเงินไม่สามารถขึ้นหรือลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถจับจังหวะของตลาดได้ดีขึ้น

สรุป

การซื้อขายฟอเร็กซ์ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณต้องหาแพลตฟอร์มที่มีสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ดี เรียนรู้แนวคิดพื้นฐานของตลาด และรู้วิธีการจัดการสถานะ คุณก็สามารถประสบความสำเร็จในการซื้อขายฟอเร็กซ์ได้

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถือครองทองคำของแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันอย่างไร?

ช่วงนี้ตลาดผันผวน เทรดยากขึ้น ทำอย่างไรให้ดี?

เครื่องมือ Pending Order ใน Order Flow