วิธีหาแพลตฟอร์ม ให้เหมาะสมกับตนเอง

หลายคนอาจคิดว่าแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก มีแค่การกำกับดูแลที่ถูกต้องก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ตาม พิจารณาถึงลักษณะการเทรดของแต่ละคนที่แตกต่างกัน เช่น:

บางเทรดเดอร์ชอบใช้ EA และสนใจว่าแพลตฟอร์มอนุญาตให้ใช้ EA หรือไม่

บางเทรดเดอร์ชอบการเทรดระยะสั้นๆ สนใจแต่ค่าสเปรด

บางเทรดเดอร์สนใจความแม่นยำจุดเข้าซื้อ เป็นต้น

ความต้องการที่แตกต่างกัน ทำให้ประสบการณ์การใช้งานแต่ละแพลตฟอร์มแตกต่างกัน

ดังนั้นจะหาแพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสมได้อย่างไร?

1. เทรดเดอร์ EA

ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ EA คุณต้องตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มอนุญาตให้ใช้ EA หรือไม่

โดยทั่วไปแพลตฟอร์มที่อนุญาตให้ใช้ EA จะมีการแจ้งให้ทราบบนเว็บไซต์ของพวกเขา เช่นแพลตฟอร์ม EBC Group ที่มีการระบุความเข้ากันได้กับ EA บนเว็บไซต์ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ EA ได้

2. เทรดเดอร์กลุ่มที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงและชอบความเสี่ยง

บางคนเป็นนักลงทุนที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง ไม่ชอบการใช้เลเวอเรจสูง แนะนำให้เลือกการกำกับดูแลระดับสูง เช่น FCA ของสหราชอาณาจักร ที่ไม่เพียงแต่เป็นการกำกับดูแลที่เข้มงวดที่สุดในขณะนี้ แต่ยังมีการให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 100 เท่าสำหรับนักลงทุนมืออาชีพ ซึ่งเป็นระดับเลเวอเรจที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยและยังคงมีการใช้เงินทุนได้ดี

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มไม่มากที่สามารถเปิดบัญชี FCA 100 เท่าได้ ก่อนเปิดบัญชี คุณต้องตรวจสอบข้อมูลการกำกับดูแลของแพลตฟอร์ม เช่นหมายเลขกำกับดูแล FCA ของ EBC Group คือ 927552 ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลการกำกับดูแลได้ด้วยตนเอง

ถ้าคุณต้องการเลเวอเรจสูงถึง 500 เท่า คุณต้องหาการกำกับดูแลนอกชายฝั่ง

หลายคนจะเชื่อมโยงการกำกับดูแลนอกชายฝั่งกับความไม่ปลอดภัย แต่จริงๆแล้วมีการกำกับดูแลนอกชายฝั่งที่ดี เช่น CIMA ของหมู่เกาะเคย์แมน ที่คล้ายกับ FCA ของสหราชอาณาจักรมากเพราะเคย์แมนเป็นดินแดนในสังกัดของสหราชอาณาจักรและปฏิบัติตามกฎหมายอังกฤษ

ใบอนุญาต CIMA ของหมู่เกาะเคย์แมนในตลาดมีน้อยมาก โดยเฉพาะใบอนุญาตทั้งหมด ซึ่งมีไม่กี่แห่งที่ถือครอง เช่น EBC Group ที่เพิ่งได้รับใบอนุญาตทั้งหมดจาก CIMA ของหมู่เกาะเคย์แมนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

คุณต้องตรวจสอบประเภทของใบอนุญาตที่ระบุบนใบอนุญาตทั้งหมด มีทั้งหมดสี่ประเภท

3. เทรดเดอร์กลุ่มที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นวิธีการเทรดที่มีโครงสร้าง

แม้ว่า MT4 จะมีตัวชี้วัดการเทรดในตัวหลายตัวและชุมชน MQL4 มีเครื่องมือฟรีมากมาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะติดตั้งตัวชี้วัดเหล่านี้ได้ และยังมีตัวชี้วัดที่มีค่าใช้จ่ายสูง

แพลตฟอร์มที่เหมาะสมมักจะมีเครื่องมือของตัวเอง เช่นเครื่องมือของ EBC Group ที่มีเครื่องมือการซ้อนกราฟ เครื่องมือ MACD แบบสองเส้น ตัวชี้วัด MTdriver เป็นต้น ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการในสถานการณ์ต่างๆ และยังคงความเข้ากันได้กับ MT4

และยังมีเครื่องมือ Order Flow ของ EBC ที่สามารถตรวจสอบการเทรดในตลาดได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้วิเคราะห์ทิศทางการเคลื่อนย้ายเงินทุนของผู้เล่นรายใหญ่ และเพิ่มความแม่นยำในการทำนาย

4. เทรดเดอร์กลุ่มที่ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแตกต่างจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมุ่งเน้นที่ข่าวสารและตรรกะของตลาด

แม้ว่าในตลาดจะมีเว็บไซต์ข่าวสารมากมาย แต่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานขาดการวิเคราะห์รายงานที่เป็นระบบและความรู้พื้นฐาน นอกจากนี้ข้อมูลการถือครองสำคัญๆ ยังสามารถเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานได้

แพลตฟอร์ม EBC Group มีการอัปเดตข้อมูลการถือครอง ETF ทองคำและ COMEX ทองคำทุกวัน ซึ่งช่วยในการเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานของทองคำได้มาก

นอกจากนี้ข้อมูลการถือครอง COMEX ทองคำที่เรามักจะได้เพียงสัปดาห์ละครั้งหรือที่เรียกว่าข้อมูลการถือครอง CFTC แต่เนื่องจาก EBC เข้าถึงฐานข้อมูล CME เราจึงสามารถรับข้อมูล COMEX แบบเรียลไทม์ ซึ่งมีประโยชน์มากในการติดตามการถือครองเพื่อการเก็งกำไรของสถาบัน

5. เทรดเดอร์ที่ต้องการความแม่นยำสูงในการเทรด

จริงๆแล้วเทรดเดอร์ทุกคนต้องการความแม่นยำสูงในการเทรด แต่เทรดเดอร์มือใหม่ยังอ่อนต่อความแม่นยำ:

เทรดเดอร์ระยะยาว เนื่องจากพวกเขาเน้นการจับแนวโน้ม จึงไม่ต้องการความแม่นยำสูงของจุดเข้าซื้อ

เทรดเดอร์ระยะกลาง แม้จะจับการเคลื่อนไหวในระยะเวลาสั้น แต่การเคลื่อนไหวขึ้นลงยังสามารถชดเชยการสูญเสียจากการเปลี่ยนแปลงของราคาได้

สำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้น ความแม่นยำในการเทรดเป็นสิ่งสำคัญมาก

สำหรับการเทรดระยะสั้นต้องคำนึงถึง 2 ข้อหลักหลัก:

สเปรดต้องต่ำ และความคลาดเคลื่อนราคา (Slippage) ต้องน้อย

สำหรับสเปรด เราสามารถเปรียบเทียบกับระดับเฉลี่ยของอุตสาหกรรมได้ โดยทั่วไปถ้าต่ำกว่า 20% ถือว่าดีมาก เช่น XAUUSD มีสเปรดเฉลี่ย 2.8-3.2 จุด หากเราใช้ค่าเฉลี่ย 3 จุด แต่ EBC Group มีสเปรดเพียง 1.9-2.0 จุด ซึ่งต่างกันถึง 1 จุด กำไรที่สะสมจะมีนัยสำคัญ

สำหรับความคลาดเคลื่อนราคา อุตสาหกรรมมีค่าเฉลี่ยประมาณ 0.1 จุด สำหรับความคลาดเคลื่อนราคาศูนย์หรือคลาดเคลื่อนราคาบวกในสถานการณ์ปกติ ถือว่าเป็นพลตฟอร์มที่ดี

สามารถเปรียบเทียบแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุด

โดยสรุป การเลือกแพลตฟอร์มต้องพิจารณาจากลักษณะการเทรดของคุณเอง แพลตฟอร์มที่เหมาะสมจะทำให้การเทรดเป็นไปอย่างราบรื่น ลดการขัดข้องในระหว่างการเทรด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำของเรา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถือครองทองคำของแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันอย่างไร?

ช่วงนี้ตลาดผันผวน เทรดยากขึ้น ทำอย่างไรให้ดี?

เครื่องมือ Pending Order ใน Order Flow