ทำตามกฎเหล็ก 5 ข้อนี้ คุณจะประสบความสำเร็จในการเทรดอย่างแน่นอน!

ในปี 1908 "เทรดเดอร์ที่ขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่" ลิเวอร์มอร์ ได้เชื่อข่าววงในของหุ้นฝ้ายที่กำลังตกอย่างรุนแรง และติดอยู่ในสถานะขาดทุน ด้วยการที่เสียเงินไปกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เขาไม่ยอดหยุดลงทุน แต่กลับสวนทางตลาด สุดท้ายจึงต้องประกาศล้มละลาย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาประสบกับความล้มเหลวครั้งใหญ่ ต่อมาเขาเล่าว่าทุกครั้งที่เขาฝ่าฝืนกฎของตัวเอง เขามักจะขาดทุนเสมอ       

ส่วนมากเราจะเคยชินกับเทคนิคการลงทุนของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม เรามักจะมองแค่ความสำเร็จและประสบการณ์ของพวกเขา แต่ลืมไปว่า ยังมีระเบียบวินัยในการซื้อขายที่เราจะต้องเรียนรู้อีกด้วย

นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าระเบียบวินัยในการซื้อขายมีความสำคัญพอ ๆ กับเทคนิคการซื้อขาย และเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเทรด วันนี้จึงขอแบ่งปันหลักการเทรดที่สำคัญ 5 ข้อ

1.อย่าสวนทางกับแนวโน้ม

อย่าสวนทางกับแนวโน้มไม่ได้หมายถึงการตามแนวโน้มอย่างเดียว แต่หมายถึงการไม่เชื่อทิศทางแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปของราคาอย่างง่าย ๆ จนกว่าจะมีสัญญาณการกลับทิศทางที่ชัดเจน

ลิเวอร์มอร์เคยกล่าวไว้ว่า อย่ากลัวที่จะซื้อเมื่อราคาถึงจุดสูง และอย่ากลัวที่จะขายเมื่อราคาอยู่จุดต่ำ ซึ่งนี่เป็นหลักการนี้เช่นกัน

ยกตัวอย่าง ในช่วงที่ราคาขึ้นเร็ว หลังจากนั้นราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบซึ่งดูเหมือนจะเป็นสัญญาณการเห็นจุดสูงสุด ดังนั้นบางคนอาจจะทำการขายในจุดนี้

กฎเหล็ก EBC


 แต่ความเป็นจริงก็คือ การปรับฐานส่วนใหญ่แล้ว เป็นเพียงการเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นต่อ ดังนั้นการปรับแนวโน้มจะมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องที่สมบูรณ์ โดยทั่วไปจะมีช่วงกลางอย่างน้อย 3 ช่วง

กฎเหล็ก EBC

ดังนั้น จนกว่าจะมีสัญญาณการกลับทิศทางที่ชัดเจน อย่าเพิ่งปรับเปลี่ยนทิศทางการเทรด ตั้งจุดทำกำไรและจุดหยุดขาดทุนให้เหมาะสม และรอโอกาส

มีวิธีการสังเกตอยู่ 2 วิธี:

  ดูแนวโน้มการขึ้นหรือลง ถ้าในแนวโน้มขาลง จุดต่ำสุดลดลงเรื่อย ๆ ถ้าจุดต่ำสุดใหม่สูงกว่าจุดต่ำสุดเก่า  เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจุดต่ำสุดนั้นมีโอกาสที่จะขึ้น

กฎเหล็ก EBC

ดูการทะลุแนว ในแนวโน้มขาลง ถ้ามีการทะลุแนว อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงราคาจะต่ำลงไปอีก

บริเวณที่ทะลุกรอบมักจะมีการทดสอบซ้ำหลายครั้ง เราสามารถใช้เครื่องมือทดสอบมาช่วยได้ ตัวอย่างเช่นเครื่องมือทดสอบของ EBC ที่สามารถบันทึกสถิติจำนวนคำสั่งในแต่ละราคาของแท่งเทียนแบบเรียลไทม์ ถ้าคำสั่งซื้อ/ขายมากกว่า 3 แสดงว่าราคานั้นมีความไม่สมดุล มีแรงซื้อที่มากกว่าแรงขายอย่างมาก

 ถ้าปรากฏขึ้น 3 ครั้งติดต่อกันแสดงว่าสัญญาณการกลับทิศทางมีความน่าเชื่อถือ

การระบุสัญญาณแนวโน้มผ่านความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณและราคาเป็นวิธีการที่สำคัญ เพื่อให้การเทรดมีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์ทุกท่านสามารถขอรับเครื่องมือทดสอบของ EBC ได้ฟรี เละเข้าใจการเปรียบเทียบกำลังของแรงซื้อแรงขายทั้งหมดในตลาด

2.เรียนรู้ที่จะอดทน

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรด มาร์ตี้ ชวาร์ตซ์ ได้รับการขนานนามว่าเป็นนักเทรดรายวัน (day trader) ที่ร่ำรวยที่สุดตลอดกาล อย่างไรก็ตาม ในวัยหนุ่มเขาก็เคยขาดทุนจนหมดทุนเช่นกัน ภายหลังเขาเล่าว่า สาเหตุหลักคือขาดความอดทน จนลืมหลักการซื้อขายและไม่สามารถรอให้ตลาดระบุแนวโน้มที่ชัดเจนได้

การอดทนที่สำคัญที่สุดคือการพิจารณาสัญญาณในตลาดก่อนที่แนวโน้มจะเกิดขึ้น ทุกแนวโน้มไม่ว่าจะมั่นใจเพียงใด ก็ไม่สามารถเข้าได้ทันที ผู้เล่นรายใหญ่มักจะใช้วิธีการหลอกล่อและการทะลุกรอบปลอม ไม่เพียงแต่ดึงดูดเทรดเดอร์ที่ซื้อขายตามแนวโน้ม และยังทำให้ผู้เล่นรายใหญ่ได้ราคาที่ดีกว่าอีกด้วย

กระบวนการนี้ อาจใช้เวลาสั้นเพียงไม่กี่วัน หรือนานหลายปี ถ้าไม่สามารถอดทนรอ ก็อาจตกเป็นเหยื่อของกับดักที่วางไว้ได้

เช่นในกราฟรายเดือนของทองคำ ช่วงที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบขนาดใหญ่ใช้เวลา 6 ปี และ 3 ปี ในช่วงนี้ก็มีการทะลุกรอบลงหลายครั้ง ซึ่งดึงดูดการขายมากมาย นี่เป็นกลยุทธ์ของผู้เล่นรายใหญ่ที่ซื้อสะสมแล้วดึงกลับเข้าไปในกรอบอีกครั้ง

กลยุทธ์นี้ยังสามารถใช้ในการหลอกล่อนักลงทุนที่มักจะซื้อขายตามแนวโน้ม

กฎเหล็ก EBC

ผู้เล่นรายใหญ่จะใช้กลยุทธ์เหล่านี้ในการล้างชิปที่ไม่มั่นคงในตลาด สุดท้ายเมื่อราคาขึ้น ชิปที่เหลืออยู่จะสอดคล้องกับทิศทางของตน การขึ้นราคาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กระบวนการนี้คือการสะสมชิป และการกระจายชิปในการลดลง ในวิธีการซื้อขายของวิคอฟ ได้อธิบายกลยุทธ์นี้อย่างละเอียด เมื่อราคาถึงจุดต่ำสุด ผู้เล่นรายใหญ่จะดึงราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว ดึงดูดนักลงทุนตามแนวโน้มแรก แต่ทันทีที่ลดลงอีกครั้งทะลุจุดต่ำสุดเดิม จะเกิดการขายและนักลงทุนตามแนวโน้มขาย ทำให้เกิดการต่อสู้สองฝ่ายในระยะเวลาสั้น

ถ้าเข้าใจกลยุทธ์นี้และอดทนรอเป็น จะสามารถตามทันผู้เล่นรายใหญ่และจับทิศทางหลักของตลาดได้

วิธีการซื้อขายวิคอฟ เป็นวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำรวจพฤติกรรมของผู้เล่นรายใหญ่ และเป็นหนึ่งในห้าวิธีการซื้อขายที่ได้รับการยอมรับในโลก อธิบายกระบวนการวนเวียนของราคาการสะสมชิป ขึ้นราคา กระจายชิป และลดราคาอย่างละเอียด

ในปีหลัง ๆ วิธีการซื้อขายวิคอฟได้รวมกับเครื่องมือทดสอบ สามารถบ่งบอกช่วงราคาและจุดซื้อขาย ช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถสังเกตพฤติกรรมของผู้เล่นรายใหญ่

3.เชื่อมั่นในระบบการเทรดของคุณ

นักซื้อขายที่มีชื่อเสียง ลาร์รี่ ไฮท์ ก่อตั้งบริษัท Mind Asset และเขียนกฎข้อแรกของบริษัทว่า ต้องเชื่อมั่นในระบบการซื้อขายอย่างเต็มที่ ห้ามใครฝ่าฝืนคำสั่งที่ออกจากระบบการซื้อขายโดยเด็ดขาด

เหมือนที่กล่าวในตอนต้น ระบบการซื้อขายประกอบด้วยทั้งเทคนิคและระเบียบวินัยในการเทรด

เช่น ดูเพียงค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 60 วันและ 120 วัน ถ้าแท่งเทียนทะลุค่าเฉลี่ยและค่าเฉลี่ยตัดกันในทิศทางลง ให้ขาย ถ้าแท่งเทียนอยู่เหนือค่าเฉลี่ยและค่าเฉลี่ยตัดกันในทิศทางขึ้น ให้ซื้อ ถ้าขาดทุนเกิน 10% ให้ปิดสถานะ นี่เป็นระบบการซื้อขายที่เรียบง่าย

ในกราฟข้างล่างนี้ ผลการทดสอบย้อนหลังมีโอกาสเข้าสถานะ 5 ครั้ง โดยมีการหยุดขาดทุน 2 ครั้ง และอีก 3 ครั้ง ยังมีการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม ผลการทดสอบโดยรวมมีกำไรที่ชัดเจน

การเทรดในโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อคุณพัฒนาระบบการซื้อขายของคุณเอง คุณต้องเชื่อมั่นในระบบนั้น สิ่งที่คุณต้องทำไม่ใช่การเปลี่ยนระบบการซื้อขายไปเรื่อย ๆ แต่เป็นการทดสอบและปรับปรุงระบบของคุณอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลการทำกำไรโดยรวมดีขึ้น

4. ตัดสินใจที่จุดสำคัญอย่างเด็ดขาด

ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงความอดทน เมื่อเรามีความอดทนและเจอโอกาสในการเข้าเทรด หากเทรดเดอร์ระมัดระวังเกินไปอาจจะพลาดโอกาสทำเงิน สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้คือการเพิ่มขนาดการลงทุนและตั้งจุดหยุดขาดทุนอย่างเหมาะสม

ลิเวอร์มอร์เคยกล่าวไว้ว่า ทุกครั้งที่เขาไม่ได้เข้าตลาดใกล้จุดเริ่มต้นของแนวโน้ม เขามักจะไม่ได้ประโยชน์ เพราะเขาพลาดกำไรที่จะเป็นหลักประกันให้มีความกล้าและอดทนพอที่จะได้รับผลกำไรในระยะยาว

การจับแนวโน้มใหญ่ แม้ว่าคุณจะทำผิดหลายครั้งในภายหลัง แต่กำไรจากแนวโน้มใหญ่จะดีกว่าแนวโน้มย่อยใด ๆ เพียงแค่ต้องตั้งจุดหยุดขาดทุนให้เหมาะสมและมองหาสัญญาณเหล่านี้

ยกตัวอย่างเช่น ในเครื่องมือการทดสอบราคา ที่มีตัวชี้วัดที่สำคัญเรียกว่า POC หรือราคาควบคุมที่สำคัญ ซึ่งเป็นราคาที่มีคำสั่งซื้อและขายมากที่สุดในแท่งเทียนเดียว โดยปกติแล้ว POC มักจะอยู่กลางแท่งเทียนซึ่งเป็นราคาที่ทั้งฝ่ายซื้อและขายต่อสู้กัน

แต่เมื่อ POC อยู่ที่ด้านบนสุดหรือด้านล่างสุด มักจะแสดงให้เห็นว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขัดขวางการขึ้นหรือลงของราคา เป็นสัญญาณของการเห็นจุดสูงสุดหรือต่ำสุดอย่างชัดเจน ในเวลานี้คุณสามารถตั้งจุดหยุดขาดทุนและเข้าตลาดอย่างเด็ดขาด

กฎเหล็ก EBC

ใช้ร่วมกับ Delta ในเครื่องมือการทดสอบราคาของ EBC สัญญาณนี้จะมีความแม่นยำมากขึ้น

Delta คือจำนวนคำสั่งซื้อสุทธิ (ซื้อ-ขาย) ซึ่งแสดงถึงกำลังที่แท้จริงของตลาด เมื่อ POC อยู่ที่ด้านล่างและ Delta เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีการเข้าสู่ตลาดของฝ่ายซื้อ

ด้วยการระบุจุดสำคัญ เราสามารถจับแนวโน้มใหญ่ได้ดีขึ้น เทรดเดอร์สามารถนำเครื่องมือการทดสอบราคาของ EBC มารวมเข้ากับระบบการซื้อขายของคุณเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ

5. เรียนรู้การปกป้องเงินทุน

การปกป้องเงินทุนเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการซื้อขาย

เพื่อปกป้องเงินทุน คุณต้องทำตาม 4 ข้อนี้:

  • ขณะเข้าตลาด ให้ลองเข้าตลาดด้วยขนาดเล็กและเพิ่มขนาดการลงทุนแบบพีระมิด
  • ขณะออกจากตลาด ให้มีการตั้งจุดหยุดขาดทุนและออกตลาดแบบแบ่งเป็นส่วน หากทิศทางชัดเจนต้องออกตลาดทั้งหมดทันที
  • ตั้งจุดทำกำไรและจุดหยุดขาดทุนให้อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุนเหมาะสม ควรอยู่ที่ 5:3, 3:2 หรือ 2:1
  • เลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่น่าเชื่อถือ

เกี่ยวกับการเข้าตลาด วิธีการซื้อของลิเวอร์มอร์เป็นมาตรฐานที่ดีมาก:

1.         ซื้อ 20% ของขนาดการลงทุน

2.         หากราคาลดลง 10% ให้หยุดขาดทุนทันที ขาดทุนจะเท่ากับ 2% ของขนาดการลงทุนทั้งหมด

3.         หากราคาขึ้น ให้เพิ่มขนาดการลงทุนอีก 20% เมื่อราคาขึ้นอีก 10% เพิ่มอีก 20% จนครั้งสุดท้ายเพิ่มจนถึง 40% แล้วรอดูทิศทางของตลาด

4.         ถ้าราคาไม่ลดลง 10% ให้ถือครองต่อไป ถ้าลดลง 10% ให้หยุดขาดทุนทันที

การออกจากตลาดต้องออกเป็นส่วน

1.         ดังที่กล่าวไป เทรดเดอร์ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อใดราคาจะกลับทิศ ดังนั้นทุกครั้งที่ราคาขึ้นถึงระดับหนึ่ง ควรออกตลาดบางส่วน อาจจะครึ่งหนึ่งหรือสามส่วนหนึ่ง จนกว่าจะถึงระดับที่ต้องออกตลาดทั้งหมด

2.         เมื่อทิศทางตรงกันข้ามชัดเจน ต้องออกตลาดทั้งหมดทันที

อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุนที่เหมาะสม คือการใช้จุดหยุดขาดทุนเล็ก ๆ เพื่อรับกำไรใหญ่ การตั้งจุดหยุดขาดทุนมากเกินไปจะทำให้กำไรไม่เพียงพอที่จะชดเชยการขาดทุน การตั้งจุดหยุดขาดทุนเล็กเกินไปอาจถูกทริกเกอร์ก่อนที่ราคาจะฟื้นตัว

สุดท้าย การเลือกแพลตฟอร์มที่มีคุณภาพก็สำคัญ หากไม่เลือกแพลตฟอร์มที่ดี อาจพบปัญหาความคลาดเคลื่อนของราคาหรือการล่าช้า ทำให้กลยุทธ์ทั้งหมดไม่สามารถทำงานได้

ควรเลือกแพลตฟอร์มที่ได้รับการควบคุมระดับสูง ตัวอย่างเช่นแพลตฟอร์ม EBC ที่ได้รับการควบคุมจาก FCA ของสหราชอาณาจักร, ASIC ของออสเตรเลีย และ CIMA ของเกาะเคย์แมน รวมถึงมีการแยกเงินทุนของผู้ใช้ในธนาคารบาร์เคลย์ของสหราชอาณาจักร และมีการซื้อประกันความรับผิดทางวิชาชีพมูลค่ากว่าล้านเหรียญสหรัฐฯ ทุกปี เพื่อให้การซื้อขายได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่

โดยรวมแล้ว การปฏิบัติตามหลักการ 5 ข้อนี้ ตั้งแต่การเข้าตลาดไปจนถึงการติดตามแนวโน้ม จากการเลือกช่วงเวลาไปจนถึงความปลอดภัย คุณจะพบวิธีการซื้อขายที่เหมาะสมกับตัวคุณในทุกสถานการณ์การซื้อขาย จำเป็นต้องเข้าใจและฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถือครองทองคำของแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันอย่างไร?

ช่วงนี้ตลาดผันผวน เทรดยากขึ้น ทำอย่างไรให้ดี?

เครื่องมือ Pending Order ใน Order Flow