กฎ 3 ข้อ: ในการเลือกแพลตฟอร์มเทรดระยะสั้น
การเทรดแบ่งเป็นการเทรดระยะสั้นและระยะยาว เมื่อเทียบกับการเทรดระยะยาว การเทรดระยะสั้นเน้นการทำกำไรในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อคว้าโอกาสและเข้าออกตลาดอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาติดตามตลาดตลอดคืนและมีความกังวล
แต่การเทรดระยะสั้น โดยปกติแล้วจะเทรดตามเหตุการณ์และข้อมูลสถิติ
นอกจากนั้นจะอยู่ที่อารมณ์ตลาดเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการเข้าซื้อและขายออกต้องมีความเด็ดขาดมาก
หากมีการเทรดบ่อยๆ ต้องพิจารณาถึงต้นทุนการเทรดด้วย
วันนี้เราจะทำการประเมินแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเทรดระยะสั้น
1. ความเร็วในการดำเนินการเฉลี่ย
การเทรดระยะสั้นเน้นความเร็วเป็นสำคัญ
ความเร็วในการเทรดมีความสัมพันธ์กับตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์
ดังนั้นการดำเนินการเทรดจากเซิร์ฟเวอร์ต่างสถานที่จะมีความเร็วที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มชั้นนำมักจะมีการกระจายเซิร์ฟเวอร์อยู่ทั่วโลก ดังนั้นเราจะได้รับความเร็วอยากครอบคลุม
จากประสบการณ์ของเรา ความเร็วการดำเนินการเฉลี่ยภายใน 350ms ถือว่าเร็วมาก
สายเคเบิลใยแก้วนำแสงจากที่นี่ไปยังสหราชอาณาจักรต้องใช้เวลามากกว่า 250ms เนื่องจากการเทรดต้องยืนยันสองทาง หนึ่งรอบจะใช้เวลา 500ms ซึ่งเป็นความเร็วเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
แพลตฟอร์มที่มีความเร็วเฉลี่ยภายใน 350ms มักจะมีการปรับแต่งโครงสร้างฮาร์ดแวร์ เครือข่ายเพียร์ทูเพียร์
และช่องทางการส่งคำสั่งอย่างดี จึงมีความเร็วมาก
ความเร็วในการดำเนินการเฉลี่ยของแพลตฟอร์มหลักๆ
ในบรรดาแพลตฟอร์มหลัก มีเพียงแพลตฟอร์ม EBC ที่ต่ำกว่า 350ms ขณะที่ GAIN Capital อยู่ที่ประมาณ 350ms สองแพลตฟอร์มนี้มีความเร็วในการดำเนินการที่ดีที่สุด
แพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น XM, FXTM, Pepperstone, AxiTrader และ Exness
อยู่ที่ประมาณ 400-450ms
2. ต้นทุนการเทรดและความผันผวนของต้นทุน
ปัจจัยที่สองที่มีผลต่อการเทรดระยะสั้นคือต้นทุนการเทรด
สำหรับการเทรดระยะสั้น ต้นทุนหลักคือสเปรดและสลิปเพจ
เราจะพิจารณาสองผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณการเทรดสูงสุดคือทองคำและเงินยูโร
โดยรวมแล้ว Exness, IC Markets และ FXTM
มีสเปรดยูโรดอลลาร์ที่ต่ำที่สุด อยู่ใกล้ 1; EBC Group,
AxiTrader และ FBS มีสเปรดต่ำกว่า 1.2 ซึ่งไม่ต่างกันมาก
แต่การเทรดระยะสั้นเน้นการเคลื่อนไหวสั้นๆ
ดังนั้นความผันผวนของสเปรดที่น้อยลงยิ่งเพิ่มความแน่นอนในการเทรด เราได้คำนวณค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของความผันผวนของสเปรดเพื่อวัดความเสถียรในการเทรด
จากค่าเบี่ยงเบนของสเปรดพบว่า EBC Group และ IC
Markets มีประสิทธิภาพดีที่สุด
สำหรับสลิปเพจซึ่งสะท้อนการปรับแต่งราคาข้อเสนอ IC
Markets, FXTM และ EBC Group มีประสิทธิภาพดีที่สุด
สำหรับทองคำซึ่งมีความผันผวนสูง
จึงทดสอบความเร็วและสภาพคล่องของแพลตฟอร์ม EBC Group มีสเปรดต่ำที่สุดเพียง
1.93 และเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่มีสเปรดต่ำกว่า 2 รองลงมาคือ IC Markets, FBS, XM และ Tickmill
อยู่ที่ประมาณ 2.5
สำหรับความเสถียรของสเปรด EBC
Group, IC Markets, XM และ Pepperstone ดีที่สุด
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานต่ำกว่า 0.3 ส่วนสลิปเพจ EBC
Group มีประสิทธิภาพดีที่สุดด้วย 0.3 positive slippage รองลงมาคือ IC Markets, TMGM, AxiTrader, FBS และ XM
ที่มี positive slippage
การพิจารณาขนาดสเปรด ความเสถียรของสเปรดและสลิปเพจ EBC
Group และ IC Markets มีประสิทธิภาพดีที่สุด
3. ความเสถียรของระบบ
สุดท้ายคือความเสถียรของระบบ ซึ่งมีความสำคัญมาก
หลายคนเน้นการเทรดระยะสั้น หากระบบเกิดความผิดพลาด
จะมีผลกระทบต่อการเทรดมาก ที่นี่เราพิจารณาจากสองปัจจัยคือ ค่าเฉลี่ยความถี่ของการเคลื่อนระยะสั้น ยิ่งต่ำยิ่งดี และค่าเฉลี่ยเวลาที่ใช้ในการเชื่อมต่อใหม่
ยิ่งสั้นยิ่งดี
อย่างที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้
การดำเนินการเทรดต้องใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 500ms แพลตฟอร์มที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรมคือ
EBC Group ใช้เวลาประมาณ 300ms หมายความว่าการส่งคำสั่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ใช้เวลาน้อยที่สุดที่
150ms
ดังนั้นหากเซิฟเวอร์ขาดการเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อใหม่ภายใน 50ms แทบจะไม่ส่งผลกระทบ แต่หากมากถึง 150ms
จะทำให้การเทรดช้าลงและมีโอกาสเกิดสลิปเพจ
การเปรียบเทียบข้อมูลพบว่า EBC
Group, GAIN Capital, Pepperstone, AxiTrader, IC Markets, และ XM
มีค่าเฉลี่ยเซิฟเวอร์ขาดการเชื่อมต่ออยู่ที่ 0.1 ครั้ง/วัน ความเสถียรโดยรวมสูงมาก
แต่เวลาที่ใช้ในการเชื่อมต่อใหม่มีความแตกต่างกัน มีเพียง
Pepperstone, AxiTrader, EBC Group และ FXTM
ที่สามารถเชื่อมต่อใหม่ภายใน 50ms
เมื่อรวมข้อมูลทั้งหมด EBC
Group, GAIN Capital และ AxiTrader มีประสิทธิภาพดีที่สุด
ส่วน FXTM ก็ดีเช่นกัน แต่ความถี่ในการตัดขาด 0.2 สูงกว่าเล็กน้อย จึงด้อยกว่าบริษัทอื่นๆ
โดยสรุป อิงจากกฎ 3 ข้อนี้แพลตฟอร์ม EBC
Group มีประสิทธิภาพโดยรวมดีที่สุด รองลงมาคือ IC Markets และ FXTM หากคุณต้องการเทรดระยะสั้น
คุณสามารถเลือกจากสามแพลตฟอร์มนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น